พระราชบัญญัติคุ้มครองแบบผังภูมิของวงจรรวม พ.ศ. ๒๕๔๓

มาตรา ๓๑
           มาตรา ๓๑  สิทธิในแบบผังภูมิของผู้ทรงสิทธิสิ้นสุดลงเมื่อ        (๑) ผู้ทรงสิทธิสละสิทธิในแบบผังภูมิโดยขอ... ...

           มาตรา ๓๑  สิทธิในแบบผังภูมิของผู้ทรงสิทธิสิ้นสุดลงเมื่อ
           (๑) ผู้ทรงสิทธิสละสิทธิในแบบผังภูมิโดยขอคืนหนังสือสำคัญแบบผังภูมิ
           (๒) แบบผังภูมิสิ้นระยะเวลาการคุ้มครองตามมาตรา ๑๙ หรือการคุ้มครองสิทธิสิ้นสุดลงตามมาตรา ๒๐ วรรคสาม
           (๓) ผู้ทรงสิทธิตายและไม่มีทายาท หรือ
           (๔) อธิบดีหรือคณะกรรมการมีคำสั่งหรือคำวินิจฉัย หรือศาลมีคำพิพากษาถึงที่สุดให้เพิกถอนการจดทะเบียนแบบผังภูมิ

มาตรา ๓๒
           มาตรา ๓๒  เมื่อพ้นกำหนดสามปีนับแต่วันรับจดทะเบียนและออกหนังสือสำคัญแบบผังภูมิ บุคคลอื่นจะยื่นคำขอใช้สิทธิในแบบผังภูมิของผู้ทรงสิทธิตามมาตร... ...

           มาตรา ๓๒  เมื่อพ้นกำหนดสามปีนับแต่วันรับจดทะเบียนและออกหนังสือสำคัญแบบผังภูมิ บุคคลอื่นจะยื่นคำขอใช้สิทธิในแบบผังภูมิของผู้ทรงสิทธิตามมาตรา ๒๒ ต่ออธิบดีก็ได้ถ้าปรากฏว่าผู้ทรงสิทธิใช้สิทธิในลักษณะที่เป็นการจำกัดหรือกีดกันการแข่งขันตามกฎหมายว่าด้วยการแข่งขันทางการค้า
           ในการขอใช้สิทธิตามวรรคหนึ่ง ผู้ขอใช้สิทธิต้องแสดงว่าผู้ขอได้พยายามดำเนินการขออนุญาตใช้สิทธิในแบบผังภูมิจากผู้ทรงสิทธิโดยได้เสนอเงื่อนไขและค่าตอบแทนที่เพียงพอตามพฤติการณ์แห่งกรณีแล้วแต่ไม่สามารถตกลงกันได้ภายในระยะเวลาอันสมควร  ทั้งนี้ ตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่กำหนดในกฎกระทรวง

มาตรา ๓๓
           มาตรา ๓๓  เมื่ออธิบดีมีคำสั่งเกี่ยวกับคำขอใช้สิทธิที่ยื่นตามมาตรา ๓๒ แล้ว ผู้ขอใช้สิทธิ ผู้ทรงสิทธิ หรือผู้ได้รับอนุญา... ...

           มาตรา ๓๓  เมื่ออธิบดีมีคำสั่งเกี่ยวกับคำขอใช้สิทธิที่ยื่นตามมาตรา ๓๒ แล้ว ผู้ขอใช้สิทธิ ผู้ทรงสิทธิ หรือผู้ได้รับอนุญาตให้ใช้สิทธิอาจอุทธรณ์คำสั่งต่อคณะกรรมการได้ภายในเก้าสิบวันนับแต่วันที่ได้รับแจ้งคำสั่งนั้น การอุทธรณ์ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กำหนดในกฎกระทรวง
           เมื่อคณะกรรมการมีคำวินิจฉัยอุทธรณ์ตามวรรคหนึ่งแล้ว ให้แจ้งคำวินิจฉัยพร้อมด้วยเหตุผลให้คู่กรณีทราบโดยไม่ชักช้า
           ถ้าผู้ขอใช้สิทธิ ผู้ทรงสิทธิ หรือผู้ได้รับอนุญาตให้ใช้สิทธิไม่เห็นด้วยกับคำวินิจฉัยของคณะกรรมการ ให้มีสิทธินำคดีไปสู่ศาลได้ภายในเก้าสิบวันนับแต่วันที่ได้รับแจ้งคำวินิจฉัยนั้นถ้าไม่ดำเนินคดีภายในกำหนดเวลาดังกล่าว ให้ถือว่าคำวินิจฉัยของคณะกรรมการเป็นที่สุด

มาตรา ๓๔
           มาตรา ๓๔  เพื่อการอันจำเป็นในการป้องกันประเทศ การรักษาความมั่นคงแห่งชาติ การรักษาความปลอดภัย สุขภาพอนามัย หรือสิ่งแวดล้อม&n... ...

           มาตรา ๓๔  เพื่อการอันจำเป็นในการป้องกันประเทศ การรักษาความมั่นคงแห่งชาติ การรักษาความปลอดภัย สุขภาพอนามัย หรือสิ่งแวดล้อม หรือเพื่อประโยชน์สาธารณะอย่างอื่นที่มิได้มีวัตถุประสงค์เพื่อการค้า ส่วนราชการ หน่วยงานของรัฐ รัฐวิสาหกิจ ราชการส่วนท้องถิ่น หรือองค์กรอื่นของรัฐที่เป็นนิติบุคคล อาจขอใช้สิทธิในแบบผังภูมิอย่างใดอย่างหนึ่งตามมาตรา ๒๒ ได้ โดยกระทำการนั้นเองหรือให้บุคคลอื่นกระทำแทน
           ในการใช้สิทธิตามวรรคหนึ่ง หน่วยงานที่ขอใช้สิทธิจะต้องเสียค่าตอบแทนที่เป็นธรรมตามสมควรแก่ผู้ทรงสิทธิหรือผู้ได้รับอนุญาตให้ใช้สิทธิตามมาตรา ๒๔ และให้อธิบดีแจ้งให้ผู้ทรงสิทธิหรือผู้ได้รับอนุญาตให้ใช้สิทธิทราบเป็นหนังสือโดยไม่ชักช้า
           ในการขอใช้สิทธิตามวรรคหนึ่ง ให้หน่วยงานที่ขอใช้สิทธิยื่นคำขอเสนอค่าตอบแทนและเงื่อนไขในการใช้สิทธิต่ออธิบดี ถ้าผู้ทรงสิทธิหรือผู้ได้รับอนุญาตให้ใช้สิทธิไม่เห็นด้วยกับจำนวนค่าตอบแทน ผู้ทรงสิทธิหรือผู้ได้รับอนุญาตให้ใช้สิทธิมีสิทธิอุทธรณ์ต่อคณะกรรมการได้ภายในเก้าสิบวันนับแต่วันที่ได้รับแจ้งคำขอเสนอค่าตอบแทนนั้น การอุทธรณ์ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กำหนดในกฎกระทรวง
           เมื่อคณะกรรมการมีคำวินิจฉัยแล้วให้ถือว่าคำวินิจฉัยของคณะกรรมการเป็นที่สุด

มาตรา ๓๕
           มาตรา ๓๕  ในภาวะสงครามหรือในภาวะฉุกเฉินเพื่อการอันจำเป็นในการป้องกันประเทศและรักษาความมั่นคงแห่งชาติ นายกรัฐมนตรีโดยอนุมัติคณะรัฐมนตรีมีอำ... ...

           มาตรา ๓๕  ในภาวะสงครามหรือในภาวะฉุกเฉินเพื่อการอันจำเป็นในการป้องกันประเทศและรักษาความมั่นคงแห่งชาติ นายกรัฐมนตรีโดยอนุมัติคณะรัฐมนตรีมีอำนาจออกคำสั่งใช้สิทธิในแบบผังภูมิใดก็ได้โดยเสียค่าตอบแทนที่เป็นธรรมตามสมควรแก่ผู้ทรงสิทธิหรือผู้ได้รับอนุญาตให้ใช้สิทธิ และต้องแจ้งให้ผู้ทรงสิทธิหรือผู้ได้รับอนุญาตให้ใช้สิทธิทราบเป็นหนังสือโดยไม่ชักช้า
           ถ้าผู้ทรงสิทธิหรือผู้ได้รับอนุญาตให้ใช้สิทธิไม่เห็นด้วยกับจำนวนค่าตอบแทนผู้ทรงสิทธิหรือผู้ได้รับอนุญาตให้ใช้สิทธิมีสิทธิอุทธรณ์ต่อคณะกรรมการได้ภายในเก้าสิบวันนับแต่วันที่ได้รับแจ้งคำสั่งนั้น การอุทธรณ์ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กำหนดในกฎกระทรวง
           เมื่อคณะกรรมการมีคำวินิจฉัยแล้วให้ถือว่าคำวินิจฉัยของคณะกรรมการเป็นที่สุด

มาตรา ๓๖
           มาตรา ๓๖  การอนุญาตให้ใช้สิทธิตามหมวดนี้ไม่เป็นการตัดสิทธิผู้ทรงสิทธิในการใช้สิทธิของตนหรือในการอนุญาตให้บุคคลอื่นใช้สิทธิดังกล่าว และผู้ไ... ...

           มาตรา ๓๖  การอนุญาตให้ใช้สิทธิตามหมวดนี้ไม่เป็นการตัดสิทธิผู้ทรงสิทธิในการใช้สิทธิของตนหรือในการอนุญาตให้บุคคลอื่นใช้สิทธิดังกล่าว และผู้ได้รับอนุญาตให้ใช้สิทธิจะอนุญาตให้บุคคลอื่นใช้สิทธิที่ได้รับอนุญาตไม่ได้

มาตรา ๓๗
           มาตรา ๓๗  ในกรณีที่พฤติการณ์เปลี่ยนแปลงไปจากเวลาที่ได้มีการอนุญาตให้ใช้สิทธิตามหมวดนี้ ผู้ทรงสิทธิหรือผู้ได้รับอนุญาตให้ใช้สิทธิตามมาตรา&n... ...

           มาตรา ๓๗  ในกรณีที่พฤติการณ์เปลี่ยนแปลงไปจากเวลาที่ได้มีการอนุญาตให้ใช้สิทธิตามหมวดนี้ ผู้ทรงสิทธิหรือผู้ได้รับอนุญาตให้ใช้สิทธิตามมาตรา ๒๔ อาจมีคำขอต่ออธิบดี เพื่อให้เปลี่ยนแปลงเงื่อนไขที่กำหนดให้ผู้ได้รับอนุญาตปฏิบัติได้
           ในกรณีที่ปรากฏว่าเหตุแห่งการอนุญาตให้ใช้สิทธิตามหมวดนี้ได้หมดสิ้นไปแล้ว และไม่น่าจะเกิดขึ้นได้อีก และการยกเลิกการอนุญาตให้ใช้สิทธิจะไม่กระทบกระเทือนสิทธิหรือประโยชน์ของผู้ได้รับอนุญาตให้ใช้สิทธิเกินสมควร หรือในกรณีที่ปรากฏว่าผู้ได้รับอนุญาตให้ใช้สิทธิไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขที่กำหนด ผู้ทรงสิทธิหรือผู้ได้รับอนุญาตให้ใช้สิทธิตามมาตรา ๒๔ อาจมีคำขอต่ออธิบดีเพื่อให้ยกเลิกการอนุญาตได้
           การขอให้เปลี่ยนแปลงเงื่อนไขตามวรรคหนึ่งหรือยกเลิกการอนุญาตให้ใช้สิทธิตามวรรคสอง ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กำหนดในกฎกระทรวง

มาตรา ๓๘
           มาตรา ๓๘  ผู้ทรงสิทธิหรือผู้ได้รับอนุญาตให้ใช้สิทธิอาจอุทธรณ์คำสั่งของอธิบดีตามมาตรา ๓๗ ต่อคณะกรรมการภายในเก้าสิบวันนับแต่วันที่ได้รั... ...

           มาตรา ๓๘  ผู้ทรงสิทธิหรือผู้ได้รับอนุญาตให้ใช้สิทธิอาจอุทธรณ์คำสั่งของอธิบดีตามมาตรา ๓๗ ต่อคณะกรรมการภายในเก้าสิบวันนับแต่วันที่ได้รับแจ้งคำสั่งนั้น การอุทธรณ์ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กำหนดในกฎกระทรวง
           ถ้าผู้ทรงสิทธิหรือผู้ได้รับอนุญาตให้ใช้สิทธิไม่เห็นด้วยกับคำวินิจฉัยของคณะกรรมการให้มีสิทธินำคดีไปสู่ศาลได้ภายในเก้าสิบวันนับแต่วันที่ได้รับแจ้งคำวินิจฉัยนั้น ถ้าไม่ดำเนินคดีภายในกำหนดเวลาดังกล่าว ให้ถือว่าคำวินิจฉัยของคณะกรรมการเป็นที่สุด

มาตรา ๓๙
           มาตรา ๓๙  ให้มีคณะกรรมการคณะหนึ่งเรียกว่า “คณะกรรมการแบบผังภูมิ” ประกอบด้วยปลัดกระทรวงพาณิชย์เป็นประธานกรรมการ และผู... ...

           มาตรา ๓๙  ให้มีคณะกรรมการคณะหนึ่งเรียกว่า “คณะกรรมการแบบผังภูมิ” ประกอบด้วยปลัดกระทรวงพาณิชย์เป็นประธานกรรมการ และผู้ทรงคุณวุฒิทั้งในสาขาวิทยาศาสตร์ วิศวกรรมศาสตร์ อุตสาหกรรม และนิติศาสตร์ ซึ่งคณะรัฐมนตรีแต่งตั้งอีกไม่เกินสิบสองคน เป็นกรรมการ โดยให้แต่งตั้งจากผู้ทรงคุณวุฒิภาคเอกชนไม่เกินหกคน
           ให้คณะกรรมการแต่งตั้งข้าราชการในกรมทรัพย์สินทางปัญญาเป็นเลขานุการและผู้ช่วยเลขานุการ

มาตรา ๔๐
           มาตรา ๔๐  ให้คณะกรรมการมีอำนาจหน้าที่ ดังต่อไปนี้        (๑) ให้คำแนะนำหรือคำปรึกษาแก่รัฐมนตรีในกา... ...

           มาตรา ๔๐  ให้คณะกรรมการมีอำนาจหน้าที่ ดังต่อไปนี้
           (๑) ให้คำแนะนำหรือคำปรึกษาแก่รัฐมนตรีในการออกกฎกระทรวงตามพระราชบัญญัตินี้
           (๒) พิจารณาวินิจฉัยอุทธรณ์คำสั่งของอธิบดีตามพระราชบัญญัตินี้
           (๓) พิจารณาเรื่องอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับแบบผังภูมิตามที่รัฐมนตรีมอบหมาย
           (๔) ปฏิบัติการอื่นตามที่กำหนดไว้ในพระราชบัญญัตินี้

มาตรา ๔๑
           มาตรา ๔๑  กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิมีวาระอยู่ในตำแหน่งคราวละสองปี กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิซึ่งพ้นจากตำแหน่งอาจได้รับการแต่งตั้งอีกได้แต่ไม่เกินสองว... ...

           มาตรา ๔๑  กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิมีวาระอยู่ในตำแหน่งคราวละสองปี กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิซึ่งพ้นจากตำแหน่งอาจได้รับการแต่งตั้งอีกได้แต่ไม่เกินสองวาระติดต่อกัน

มาตรา ๔๒
           มาตรา ๔๒  นอกจากการพ้นจากตำแหน่งตามวาระ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิพ้นจากตำแหน่งเมื่อ        (๑) ตาย &nbs... ...

           มาตรา ๔๒  นอกจากการพ้นจากตำแหน่งตามวาระ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิพ้นจากตำแหน่งเมื่อ
           (๑) ตาย
           (๒) ลาออก
           (๓) คณะรัฐมนตรีให้ออก
           (๔) เป็นบุคคลล้มละลาย
           (๕) เป็นคนไร้ความสามารถหรือคนเสมือนไร้ความสามารถ หรือ
           (๖) ได้รับโทษจำคุกโดยคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุก เว้นแต่เป็นโทษสำหรับความผิดที่ได้กระทำโดยประมาทหรือความผิดลหุโทษ

มาตรา ๔๓
           มาตรา ๔๓  ในกรณีที่มีการแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิซึ่งพ้นจากตำแหน่งก่อนวาระ หรือในกรณีที่มีการแต่งตั้งกรรมการผู้ท... ...

           มาตรา ๔๓  ในกรณีที่มีการแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิซึ่งพ้นจากตำแหน่งก่อนวาระ หรือในกรณีที่มีการแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิเพิ่มขึ้นในระหว่างที่กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิซึ่งแต่งตั้งไว้แล้วยังมีวาระอยู่ในตำแหน่ง ให้ผู้ได้รับแต่งตั้งอยู่ในตำแหน่งเท่ากับวาระที่เหลืออยู่ของกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิซึ่งแต่งตั้งไว้แล้วนั้น

มาตรา ๔๔
           มาตรา ๔๔  ในกรณีที่กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิดำรงตำแหน่งครบวาระแล้วแต่ยังมิได้มีการแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิขึ้นใหม่ ให้กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิซ... ...

           มาตรา ๔๔  ในกรณีที่กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิดำรงตำแหน่งครบวาระแล้วแต่ยังมิได้มีการแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิขึ้นใหม่ ให้กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิซึ่งพ้นจากตำแหน่งตามวาระปฏิบัติหน้าที่ไปพลางก่อนจนกว่าจะได้มีการแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิขึ้นใหม่

มาตรา ๔๕
           มาตรา ๔๕  การประชุมของคณะกรรมการต้องมีกรรมการมาประชุมไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวนกรรมการทั้งหมดจึงจะเป็นองค์ประชุม ถ้าประธานกรรมการไม่อยู่... ...

           มาตรา ๔๕  การประชุมของคณะกรรมการต้องมีกรรมการมาประชุมไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวนกรรมการทั้งหมดจึงจะเป็นองค์ประชุม ถ้าประธานกรรมการไม่อยู่ในที่ประชุมหรือไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ ให้กรรมการที่มาประชุมเลือกกรรมการคนหนึ่งขึ้นทำหน้าที่แทน
           การวินิจฉัยชี้ขาดของที่ประชุมให้ถือเสียงข้างมาก กรรมการคนหนึ่งให้มีเสียงหนึ่งในการลงคะแนน ถ้าคะแนนเสียงเท่ากัน ให้ประธานในที่ประชุมออกเสียงเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งเสียงเป็นเสียงชี้ขาด

มาตรา ๔๖
           มาตรา ๔๖  ให้คณะกรรมการมีอำนาจแต่งตั้งคณะอนุกรรมการเพื่อพิจารณาหรือปฏิบัติการอย่างใดอย่างหนึ่งตามที่คณะกรรมการมอบหมาย และให้นำมาตรา ๔... ...

           มาตรา ๔๖  ให้คณะกรรมการมีอำนาจแต่งตั้งคณะอนุกรรมการเพื่อพิจารณาหรือปฏิบัติการอย่างใดอย่างหนึ่งตามที่คณะกรรมการมอบหมาย และให้นำมาตรา ๔๕ มาใช้บังคับแก่การประชุมของคณะอนุกรรมการโดยอนุโลม

มาตรา ๔๗
           มาตรา ๔๗  ในการปฏิบัติหน้าที่ ให้คณะกรรมการหรือคณะอนุกรรมการมีอำนาจออกคำสั่งเป็นหนังสือเรียกบุคคลที่เกี่ยวข้องมาให้ถ้อยคำหรือให้ส่งเอกสารห... ...

           มาตรา ๔๗  ในการปฏิบัติหน้าที่ ให้คณะกรรมการหรือคณะอนุกรรมการมีอำนาจออกคำสั่งเป็นหนังสือเรียกบุคคลที่เกี่ยวข้องมาให้ถ้อยคำหรือให้ส่งเอกสารหรือสิ่งใดมาเพื่อประกอบการพิจารณาได้ตามความจำเป็น  ทั้งนี้ ตามระเบียบที่คณะกรรมการกำหนด

มาตรา ๔๘
           มาตรา ๔๘  ผู้ใดกระทำการตามมาตรา ๒๒ (๑) โดยไม่ได้รับอนุญาตจากผู้ทรงสิทธิ ต้องระวางโทษปรับตั้งแต่ห้าหมื่นบาทถึงห้าแสนบาท ...

           มาตรา ๔๘  ผู้ใดกระทำการตามมาตรา ๒๒ (๑) โดยไม่ได้รับอนุญาตจากผู้ทรงสิทธิ ต้องระวางโทษปรับตั้งแต่ห้าหมื่นบาทถึงห้าแสนบาท

มาตรา ๔๙
           มาตรา ๔๙  ผู้ใดกระทำการตามมาตรา ๒๒ (๒) โดยไม่ได้รับอนุญาตจากผู้ทรงสิทธิ ต้องระวางโทษปรับตั้งแต่สองหมื่นบาทถึงสองแสนบาท ...

           มาตรา ๔๙  ผู้ใดกระทำการตามมาตรา ๒๒ (๒) โดยไม่ได้รับอนุญาตจากผู้ทรงสิทธิ ต้องระวางโทษปรับตั้งแต่สองหมื่นบาทถึงสองแสนบาท

มาตรา ๕๐
           มาตรา ๕๐  ผู้ใดยื่นคำขอหรือเอกสารอื่นใดเกี่ยวกับการจดทะเบียนหรือการเพิกถอนการจดทะเบียนแบบผังภูมิหรือการโอนสิทธิหรือการอนุญาตให้ใช้สิทธิในแบบผัง... ...

           มาตรา ๕๐  ผู้ใดยื่นคำขอหรือเอกสารอื่นใดเกี่ยวกับการจดทะเบียนหรือการเพิกถอนการจดทะเบียนแบบผังภูมิหรือการโอนสิทธิหรือการอนุญาตให้ใช้สิทธิในแบบผังภูมิ โดยการแสดงข้อความอันเป็นเท็จแก่พนักงานเจ้าหน้าที่หรือคณะกรรมการต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหกเดือนหรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

มาตรา ๕๑
           มาตรา ๕๑  ผู้ใดฝ่าฝืนมาตรา ๔๗ ต้องระวางโทษปรับไม่เกินห้าพันบาท ...

           มาตรา ๕๑  ผู้ใดฝ่าฝืนมาตรา ๔๗ ต้องระวางโทษปรับไม่เกินห้าพันบาท

มาตรา ๕๒
           มาตรา ๕๒  ในกรณีที่ผู้กระทำความผิดซึ่งต้องรับโทษตามพระราชบัญญัตินี้ เป็นนิติบุคคล กรรมการผู้จัดการ ผู้จัดการ หรือผู้แทนนิติ... ...

           มาตรา ๕๒  ในกรณีที่ผู้กระทำความผิดซึ่งต้องรับโทษตามพระราชบัญญัตินี้ เป็นนิติบุคคล กรรมการผู้จัดการ ผู้จัดการ หรือผู้แทนนิติบุคคลนั้น ต้องรับโทษตามที่บัญญัติไว้ สำหรับความผิดนั้น ๆ ด้วย เว้นแต่จะพิสูจน์ได้ว่าตนมิได้รู้เห็นหรือยินยอมในการกระทำความผิดของนิติบุคคลนั้น

มาตรา ๕๓
           มาตรา ๕๓  ในกรณีที่ศาลมีคำพิพากษาว่าผู้กระทำความผิดได้กระทำความผิดตามมาตรา ๔๘ หรือมาตรา ๔๙ ให้ศาลมีคำสั่งริบแบบผังภูมิ ... ...

           มาตรา ๕๓  ในกรณีที่ศาลมีคำพิพากษาว่าผู้กระทำความผิดได้กระทำความผิดตามมาตรา ๔๘ หรือมาตรา ๔๙ ให้ศาลมีคำสั่งริบแบบผังภูมิ หรือวงจรรวม หรือผลิตภัณฑ์ที่ละเมิดสิทธิของผู้ทรงสิทธิที่อยู่ในความครอบครองของผู้กระทำความผิดเสียทั้งสิ้น ในกรณีที่ศาลเห็นสมควร ศาลอาจมีคำสั่งให้ทำลายแบบผังภูมิ หรือวงจรรวม หรือผลิตภัณฑ์ดังกล่าว หรือให้ดำเนินการอย่างอื่นเพื่อป้องกันมิให้มีการนำเอาสินค้าดังกล่าวออกจำหน่ายอีกก็ได้
           ในกรณีที่ผู้กระทำความผิดได้นำแบบผังภูมิหรือวงจรรวมของผู้ทรงสิทธิออกจากวงจรรวมหรือผลิตภัณฑ์ที่ละเมิดสิทธิของผู้ทรงสิทธิแล้ว ศาลจะสั่งริบหรือมีคำสั่งอื่นตามวรรคหนึ่งได้เฉพาะกับวงจรรวมหรือผลิตภัณฑ์ที่ยังคงละเมิดสิทธิของผู้ทรงสิทธิ

บัญชีอัตราค่าธรรมเนียม พ.ร.บ.แบบผังภูมิของวงจรรวม พ.ศ. ๒๕๔๓
           บัญชีอัตราค่าธรรมเนียม        คำขอจดทะเบียนแบบผังภูมิ  ฉบับละ ๑,๐๐๐ บาท      &... ...        บัญชีอัตราค่าธรรมเนียม
           คำขอจดทะเบียนแบบผังภูมิ  ฉบับละ ๑,๐๐๐ บาท
           การประกาศโฆษณาการรับจดทะเบียนแบบผังภูมิ  ฉบับละ ๕๐๐ บาท
           หนังสือสำคัญแบบผังภูมิ  ฉบับละ ๑,๐๐๐ บาท
           คำขอเพิกถอนการจดทะเบียนแบบผังภูมิ  ฉบับละ ๕๐๐ บาท
           คำอุทธรณ์คำสั่งของอธิบดี  ฉบับละ ๑,๐๐๐ บาท
           ค่าธรรมเนียมรายปี
             ปีที่ ๒  ๒,๐๐๐ บาท
             ปีที่ ๓  ๔,๐๐๐ บาท
             ปีที่ ๔  ๖,๐๐๐ บาท
             ปีที่ ๕  ๒๐,๐๐๐ บาท
             ปีที่ ๖  ๓๐,๐๐๐ บาท
             ปีที่ ๗  ๔๐,๐๐๐ บาท
             ปีที่ ๘  ๕๐,๐๐๐ บาท
             ปีที่ ๙  ๖๐,๐๐๐ บาท
             ปีที่ ๑๐  ๗๐,๐๐๐ บาท
             หรือชำระในคราวเดียว  ๒๘๐,๐๐๐ บาท
           คำขอจดทะเบียนสัญญาอนุญาตให้ใช้สิทธิในแบบผังภูมิ  ฉบับละ ๕๐๐ บาท
           คำขอจดทะเบียนรับโอนสิทธิในแบบผังภูมิ  ฉบับละ ๕๐๐ บาท
           คำขอใช้สิทธิในแบบผังภูมิ  ฉบับละ ๕๐๐ บาท
           ใบอนุญาตให้ใช้สิทธิในแบบผังภูมิ  ฉบับละ ๑,๐๐๐ บาท
           ใบแทนหนังสือสำคัญแบบผังภูมิ  ฉบับละ ๑๐๐ บาท
           ใบแทนใบอนุญาตให้ใช้สิทธิในแบบผังภูมิ  ฉบับละ ๑๐๐ บาท
           การคัดสำเนาเอกสาร  หน้าละ ๑๐ บาท
           การรับรองสำเนาเอกสาร  
             เอกสารเกิน ๑๐ หน้า  ฉบับละ  ๑๐๐ บาท
             เอกสารไม่เกิน ๑๐ หน้า  หน้าละ ๑๐ บาท
           คำขออื่น ๆ  ฉบับละ ๑๐๐ บาท