มาตรา ๑ พระราชบัญญัตินี้เรียกว่า “พระราชบัญญัติคุ้มครองแบบผังภูมิของวงจรรวม พ.ศ. ๒๕๔๓”
มาตรา ๒* พระราชบัญญัตินี้ให้ใช้บังคับเมื่อพ้นกำหนดเก้าสิบวันนับแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
มาตรา ๓ ในพระราชบัญญัตินี้
“วงจรรวม” หมายความว่า ผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปหรือกึ่งสำเร็จรูปที่ทำหน้าที่ทางอิเล็กทรอนิกส์ อันประกอบด้วยชิ้นส่วนที่สามารถกระตุ้นให้เกิดการปฏิบัติการทางอิเล็กทรอนิกส์รวมอยู่ด้วยและส่วนเชื่อมต่อที่เชื่อมชิ้นส่วนเหล่านั้นทั้งหมด หรือบางส่วนเข้าด้วยกัน ซึ่งได้จัดวางเป็นชั้นในลักษณะที่ผสานรวมกันอยู่บนหรือในวัตถุกึ่งตัวนำชิ้นเดียวกัน
“แบบผังภูมิ” หมายความว่า แบบ แผนผัง หรือภาพที่ทำขึ้นไม่ว่าจะปรากฏในรูปแบบหรือวิธีใดเพื่อให้เห็นถึงการจัดวางให้เป็นวงจรรวม
“หนังสือสำคัญแบบผังภูมิ” หมายความว่า หนังสือสำคัญที่ออกให้เพื่อคุ้มครองแบบผังภูมิตามพระราชบัญญัตินี้
“การหาประโยชน์ในเชิงพาณิชย์” หมายความว่า การแสวงหาประโยชน์โดยการขาย ให้เช่า หรือโดยการกระทำอื่นใดเพื่อให้ได้มาซึ่งค่าตอบแทนหรือประโยชน์อื่นใด และให้หมายความรวมถึงการนำเสนอเพื่อการแสวงหาประโยชน์ด้วย
“ผู้ทรงสิทธิ” หมายความว่า ผู้ซึ่งได้รับหนังสือสำคัญแบบผังภูมิและให้หมายความรวมถึงผู้รับโอนด้วย
“คณะกรรมการ” หมายความว่า คณะกรรมการแบบผังภูมิ
“พนักงานเจ้าหน้าที่” หมายความว่า ผู้ซึ่งรัฐมนตรีแต่งตั้งให้ปฏิบัติการตามพระราชบัญญัตินี้
“อธิบดี” หมายความว่า อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา
“รัฐมนตรี” หมายความว่า รัฐมนตรีผู้รักษาการตามพระราชบัญญัตินี้
มาตรา ๔ ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์รักษาการตามพระราชบัญญัตินี้ และให้มีอำนาจแต่งตั้งพนักงานเจ้าหน้าที่ ออกกฎกระทรวงกำหนดค่าธรรมเนียมไม่เกินอัตราตามบัญชีท้ายพระราชบัญญัตินี้ ลดหรือยกเว้นค่าธรรมเนียม และกำหนดกิจการอื่นเพื่อปฏิบัติการตามพระราชบัญญัตินี้
กฎกระทรวงนั้น เมื่อได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้วให้ใช้บังคับได้
มาตรา ๕ การคุ้มครองแบบผังภูมิของวงจรรวมให้เป็นไปตามที่กำหนดในพระราชบัญญัตินี้ และไม่อยู่ในบังคับกฎหมายว่าด้วยสิทธิบัตร
มาตรา ๖ แบบผังภูมิที่สามารถขอรับความคุ้มครองตามพระราชบัญญัตินี้ได้แก่
(๑) แบบผังภูมิที่ผู้ออกแบบได้สร้างสรรค์ขึ้นเองและไม่เป็นที่รู้จักกันโดยทั่วไปในอุตสาหกรรมวงจรรวม
(๒) แบบผังภูมิที่ผู้ออกแบบได้สร้างสรรค์ขึ้นใหม่โดยนำเอาชิ้นส่วน ส่วนเชื่อมต่อแบบผังภูมิหรือวงจรรวมอันเป็นที่รู้จักกันโดยทั่วไปในอุตสาหกรรมวงจรรวมมาจัดวางใหม่ในลักษณะที่ทำให้เกิดเป็นแบบผังภูมิที่ไม่เป็นที่รู้จักกันโดยทั่วไปในอุตสาหกรรมวงจรรวม
มาตรา ๗ ผู้ออกแบบแบบผังภูมิเป็นผู้มีสิทธิขอรับความคุ้มครองแบบผังภูมิตามพระราชบัญญัตินี้
มาตรา ๘ สิทธิขอรับความคุ้มครองแบบผังภูมิที่ผู้ออกแบบได้สร้างสรรค์ขึ้นในฐานะพนักงานหรือลูกจ้างให้ตกเป็นของพนักงานหรือลูกจ้างนั้น เว้นแต่จะมีหนังสือตกลงกันไว้เป็นอย่างอื่น
ในกรณีที่ผู้ออกแบบได้สร้างสรรค์แบบผังภูมิขึ้นโดยการรับจ้างบุคคลอื่น ให้ผู้ว่าจ้างเป็นผู้มีสิทธิขอรับความคุ้มครองในแบบผังภูมินั้น เว้นแต่จะมีหนังสือตกลงกันไว้เป็นอย่างอื่น
มาตรา ๙ ส่วนราชการ หน่วยงานของรัฐ รัฐวิสาหกิจ ราชการส่วนท้องถิ่น หรือองค์กรอื่นของรัฐที่เป็นนิติบุคคลย่อมมีสิทธิขอรับความคุ้มครองในแบบผังภูมิที่ได้สร้างสรรค์ขึ้นโดยการจ้างหรือตามคำสั่งหรือในความควบคุมขององค์กรนั้น เว้นแต่จะมีหนังสือตกลงกันไว้เป็นอย่างอื่น
มาตรา ๑๐ สิทธิขอรับความคุ้มครองแบบผังภูมิย่อมโอนและรับมรดกกันได้ การโอนสิทธิขอรับความคุ้มครองตามพระราชบัญญัตินี้ ต้องทำเป็นหนังสือลงลายมือชื่อผู้โอนและผู้รับโอน
มาตรา ๑๑ ถ้ามีบุคคลหลายคนสร้างสรรค์แบบผังภูมิร่วมกัน บุคคลเหล่านั้นมีสิทธิขอรับความคุ้มครองในแบบผังภูมินั้นร่วมกัน
ในกรณีที่ผู้ออกแบบแบบผังภูมิร่วมคนใดไม่ยอมร่วมขอรับความคุ้มครองแบบผังภูมิหรือติดต่อไม่ได้ หรือไม่มีสิทธิขอรับความคุ้มครองในแบบผังภูมิ ผู้ออกแบบแบบผังภูมิคนอื่นจะขอรับความคุ้มครองสำหรับแบบผังภูมิที่ได้สร้างสรรค์ร่วมกันนั้นในนามของตนเองก็ได้
ผู้ออกแบบแบบผังภูมิร่วมซึ่งไม่ได้ร่วมขอรับความคุ้มครองแบบผังภูมิจะยื่นคำขอเข้าเป็นผู้ร่วมขอรับความคุ้มครองแบบผังภูมิเมื่อใดก็ได้ก่อนมีการออกหนังสือสำคัญแบบผังภูมิให้แก่ผู้ออกแบบร่วมซึ่งได้ยื่นคำขอรับความคุ้มครองไว้ก่อนแล้ว โดยยื่นคำขอพร้อมด้วยพยานหลักฐานที่แสดงว่าผู้ขอเป็นผู้ออกแบบร่วมจริง และให้พนักงานเจ้าหน้าที่สอบสวนว่าผู้ขอเป็นผู้ออกแบบร่วมกันหรือไม่และรายงานให้อธิบดีทราบเพื่อมีคำวินิจฉัย ในการนี้ ให้แจ้งกำหนดวันสอบสวนและส่งสำเนาคำขอไปยังผู้ขอรับความคุ้มครองและผู้ร่วมขอรับความคุ้มครองแบบผังภูมิคนอื่นด้วย
ผู้ออกแบบแบบผังภูมิร่วมมีสิทธิอุทธรณ์คำสั่งของอธิบดีต่อคณะกรรมการได้ภายในเก้าสิบวันนับแต่วันที่ได้รับแจ้งคำสั่งนั้น การอุทธรณ์ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กำหนดในกฎกระทรวง
เมื่อคณะกรรมการมีคำวินิจฉัยแล้ว ถ้าผู้ออกแบบแบบผังภูมิร่วมไม่เห็นด้วยกับคำวินิจฉัยของคณะกรรมการ ให้มีสิทธินำคดีไปสู่ศาลได้ภายในเก้าสิบวันนับแต่วันที่ได้รับแจ้งคำวินิจฉัยนั้น ถ้าไม่ดำเนินคดีภายในกำหนดเวลาดังกล่าว ให้ถือว่าคำวินิจฉัยของคณะกรรมการเป็นที่สุด
การยื่นคำขอและการสอบสวนตามวรรคสาม ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กำหนดในกฎกระทรวง
มาตรา ๑๒ ในกรณีที่บุคคลหลายคนต่างสร้างสรรค์แบบผังภูมิที่เหมือนกันโดยมิได้สร้างสรรค์ร่วมกัน ให้ผู้ยื่นคำขอรับความคุ้มครองก่อนเป็นผู้มีสิทธิได้รับความคุ้มครองแบบผังภูมิ ในกรณีที่ยื่นคำขอรับความคุ้มครองในวันเดียวกัน ให้ผู้ขอรับความคุ้มครองทำความตกลงกันว่าจะให้บุคคลใดเป็นผู้มีสิทธิได้รับความคุ้มครองแต่ผู้เดียวหรือมีสิทธิได้รับความคุ้มครองร่วมกัน ถ้าตกลงกันไม่ได้ภายในระยะเวลาที่อธิบดีกำหนด ให้ผู้ยื่นคำขอรับความคุ้มครองในลำดับก่อนในวันดังกล่าวเป็นผู้มีสิทธิได้รับความคุ้มครอง
มาตรา ๑๓ บุคคลซึ่งจะมีสิทธิขอรับความคุ้มครองแบบผังภูมิตามพระราชบัญญัตินี้ ต้องมีคุณสมบัติอย่างใดอย่างหนึ่งดังต่อไปนี้
(๑) มีสัญชาติไทย หรือเป็นนิติบุคคลที่มีสำนักงานแห่งใหญ่ตั้งอยู่ในประเทศไทย
(๒) มีสัญชาติของประเทศที่เป็นภาคีแห่งอนุสัญญาหรือความตกลงระหว่างประเทศเกี่ยวกับการคุ้มครองแบบผังภูมิของวงจรรวมซึ่งประเทศไทยเป็นภาคีอยู่ด้วย
(๓) มีภูมิลำเนาหรือสถานที่ประกอบธุรกิจที่เกี่ยวกับการสร้างสรรค์แบบผังภูมิหรือการผลิตวงจรรวมอย่างจริงจังในประเทศไทยหรือประเทศที่เป็นภาคีแห่งอนุสัญญาหรือความตกลงระหว่างประเทศเกี่ยวกับการคุ้มครองแบบผังภูมิของวงจรรวมซึ่งประเทศไทยเป็นภาคีอยู่ด้วย
มาตรา ๑๔ บุคคลซึ่งมีสิทธิขอรับความคุ้มครองตามที่กำหนดในมาตรา ๗ มาตรา ๘ มาตรา ๙ มาตรา ๑๐ มาตรา ๑๑ หรือมาตรา ๑๒ ซึ่งมีคุณสมบัติตามมาตรา ๑๓ มีสิทธิยื่นขอจดทะเบียนเพื่อคุ้มครองแบบผังภูมิได้
ในกรณีที่ได้นำแบบผังภูมิออกหาประโยชน์ในเชิงพาณิชย์แล้ว ไม่ว่าในหรือนอกราชอาณาจักร การยื่นขอจดทะเบียนแบบผังภูมิดังกล่าวต้องกระทำภายในสองปีนับแต่วันที่ได้นำแบบผังภูมินั้นออกหาประโยชน์ในเชิงพาณิชย์เป็นครั้งแรก
แบบผังภูมิที่ไม่มีการนำออกหาประโยชน์ในเชิงพาณิชย์ภายในสิบห้าปีนับแต่วันที่สร้างสรรค์แบบผังภูมินั้นเสร็จสิ้น ไม่อาจขอจดทะเบียนได้
มาตรา ๑๕ การขอจดทะเบียนแบบผังภูมิเพื่อขอรับความคุ้มครองตามพระราชบัญญัตินี้ ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่กำหนดในกฎกระทรวง
คำขอจดทะเบียนต้องมีรายการอย่างน้อยดังต่อไปนี้
(๑) ชื่อ สัญชาติ ภูมิลำเนา และที่อยู่ของผู้ออกแบบ รวมทั้งการโอนสิทธิขอรับความคุ้มครอง หากมีการโอนสิทธิดังกล่าว
(๒) วันที่สร้างสรรค์แบบผังภูมิและวันที่ได้นำแบบผังภูมิออกหาประโยชน์ในเชิงพาณิชย์เป็นครั้งแรก พร้อมทั้งรายละเอียดเกี่ยวกับการนำออกหาประโยชน์
(๓) ภาพวาด หรือภาพถ่ายลายเส้นที่แสดงแบบผังภูมิ หรือสิ่งอื่นที่ให้ผลในลักษณะเดียวกัน รวมทั้งข้อมูลการทำงานทางด้านอิเล็กทรอนิกส์ของวงจรรวมนั้น
(๔) ตัวอย่างของวงจรรวมที่มีแบบผังภูมิปรากฏในกรณีที่มีการนำออกหาประโยชน์ในเชิงพาณิชย์แล้ว และ
(๕) รายการอื่นที่กำหนดในกฎกระทรวง
มาตรา ๑๖ ในการจดทะเบียนแบบผังภูมิ ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ตรวจสอบคำขอจดทะเบียนให้ถูกต้องตามมาตรา ๑๔ และมาตรา ๑๕ และทำรายงานการตรวจสอบเสนอต่ออธิบดี
มาตรา ๑๗ ในกรณีที่คำขอจดทะเบียนแบบผังภูมิเป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดในมาตรา ๑๔ และมาตรา ๑๕ ให้อธิบดีมีคำสั่งรับจดทะเบียน ออกหนังสือสำคัญแบบผังภูมิให้แก่ผู้ขอจดทะเบียน ประกาศโฆษณาการรับจดทะเบียน และมีหนังสือแจ้งให้ผู้ขอจดทะเบียนชำระค่าธรรมเนียมการออกหนังสือสำคัญแบบผังภูมิและค่าธรรมเนียมการประกาศโฆษณา ทั้งนี้ ตามวิธีการและระยะเวลาที่กำหนดในกฎกระทรวง
หากผู้ขอจดทะเบียนแบบผังภูมิไม่ชำระค่าธรรมเนียมตามวรรคหนึ่ง ให้ถือว่าผู้ขอจดทะเบียนละทิ้งคำขอจดทะเบียน
หนังสือสำคัญแบบผังภูมิให้เป็นไปตามแบบที่กำหนดในกฎกระทรวง
ในกรณีที่หนังสือสำคัญแบบผังภูมิสูญหาย หรือชำรุดในสาระสำคัญ ให้ผู้ทรงสิทธิขอรับใบแทนหนังสือสำคัญแบบผังภูมิได้ตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กำหนดในกฎกระทรวง
มาตรา ๑๘ ในกรณีที่คำขอจดทะเบียนแบบผังภูมิไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดในมาตรา ๑๔ หรือมาตรา ๑๕ ให้อธิบดีมีคำสั่งยกคำขอจดทะเบียนและให้มีหนังสือแจ้งคำสั่งพร้อมด้วยเหตุผลให้ผู้ขอจดทะเบียนทราบโดยไม่ชักช้า
ผู้ขอจดทะเบียนมีสิทธิอุทธรณ์คำสั่งของอธิบดีต่อคณะกรรมการได้ภายในเก้าสิบวันนับแต่วันที่ได้รับแจ้งคำสั่งนั้น การอุทธรณ์ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กำหนดในกฎกระทรวง
เมื่อคณะกรรมการมีคำวินิจฉัยแล้ว ถ้าผู้ขอจดทะเบียนไม่เห็นด้วยกับคำวินิจฉัยของคณะกรรมการ ให้มีสิทธินำคดีไปสู่ศาลได้ภายในเก้าสิบวันนับแต่วันที่ได้รับแจ้งคำวินิจฉัยนั้น ถ้าไม่ดำเนินคดีภายในกำหนดเวลาดังกล่าว ให้ถือว่าคำวินิจฉัยของคณะกรรมการเป็นที่สุด
มาตรา ๑๙ สิทธิในแบบผังภูมิจะได้รับความคุ้มครองตามพระราชบัญญัตินี้ เมื่อได้รับจดทะเบียนและออกหนังสือสำคัญให้แล้ว
หนังสือสำคัญแบบผังภูมิให้มีอายุสิบปีนับแต่วันที่ยื่นขอจดทะเบียนตามพระราชบัญญัตินี้ หรือวันที่นำแบบผังภูมิออกหาประโยชน์ในเชิงพาณิชย์เป็นครั้งแรกไม่ว่าในหรือนอกราชอาณาจักร แล้วแต่วันใดจะเกิดขึ้นก่อน แต่ทั้งนี้ไม่เกินสิบห้าปีนับแต่วันที่สร้างสรรค์แบบผังภูมินั้นเสร็จสิ้นแล้ว
มาตรา ๒๐ ผู้ทรงสิทธิต้องเสียค่าธรรมเนียมรายปีตามที่กำหนดในกฎกระทรวง โดยเริ่มตั้งแต่ปีที่สองของอายุการคุ้มครองแบบผังภูมิ และต้องชำระภายในหกสิบวันนับแต่วันเริ่มต้นระยะเวลาของปีที่สองนั้นและของปีต่อไปทุกปี
ถ้าผู้ทรงสิทธิไม่ชำระค่าธรรมเนียมรายปีตามวรรคหนึ่ง ต้องเสียค่าธรรมเนียมเพิ่มร้อยละสามสิบของเงินค่าธรรมเนียมรายปี
ถ้าผู้ทรงสิทธิไม่ชำระค่าธรรมเนียมรายปีและค่าธรรมเนียมเพิ่มภายในหกเดือนนับแต่วันสิ้นกำหนดชำระค่าธรรมเนียมรายปีตามวรรคหนึ่ง ให้ถือว่าสิทธิในแบบผังภูมินั้นสิ้นสุดลง ในกรณีนี้ ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ประกาศให้ทราบถึงการสิ้นสุดการคุ้มครองของแบบผังภูมิดังกล่าว
มาตรา ๒๑ ผู้ทรงสิทธิจะขอชำระค่าธรรมเนียมรายปีล่วงหน้าโดยชำระทั้งหมดในคราวเดียวแทนการชำระค่าธรรมเนียมรายปีก็ได้
ในกรณีที่ผู้ทรงสิทธิได้ชำระค่าธรรมเนียมรายปีล่วงหน้าไปแล้ว แต่ได้มีการแก้ไขอัตราค่าธรรมเนียมรายปี หรือผู้ทรงสิทธิสละสิทธิในแบบผังภูมิ หรือมีการเพิกถอนการจดทะเบียนแบบผังภูมินั้น ผู้ทรงสิทธิไม่ต้องชำระค่าธรรมเนียมรายปีเพิ่มเติม หรือไม่มีสิทธิได้รับคืนค่าธรรมเนียมรายปีที่ได้จ่ายล่วงหน้าไปแล้วนั้น
มาตรา ๒๒ ผู้ทรงสิทธิมีสิทธิแต่ผู้เดียวที่จะกระทำการอย่างใดอย่างหนึ่ง ดังต่อไปนี้
(๑) ทำซ้ำซึ่งแบบผังภูมิที่ตนได้รับความคุ้มครองตามพระราชบัญญัตินี้
(๒) นำเข้ามาในราชอาณาจักร ขาย หรือจำหน่ายโดยวิธีการใดเพื่อประโยชน์ในเชิงพาณิชย์ ซึ่งแบบผังภูมิที่ตนได้รับความคุ้มครอง หรือวงจรรวมที่มีแบบผังภูมิที่ตนได้รับความคุ้มครองประกอบอยู่ด้วย หรือผลิตภัณฑ์ที่มีวงจรรวมดังกล่าวประกอบอยู่ด้วย
การกระทำอย่างใดอย่างหนึ่งตามวรรคหนึ่งโดยไม่ได้รับอนุญาตจากผู้ทรงสิทธิให้ถือว่าเป็นการละเมิดสิทธิของผู้ทรงสิทธิ
ในกรณีที่มีการละเมิดสิทธิของผู้ทรงสิทธิโดยกระทำการใดตาม (๒) ต่อวงจรรวม หรือผลิตภัณฑ์ที่มีแบบผังภูมิของผู้ทรงสิทธิประกอบอยู่ด้วย หากผู้กระทำได้นำแบบผังภูมิของผู้ทรงสิทธิออกจากวงจรรวมหรือผลิตภัณฑ์นั้น หรือได้รับอนุญาตจากผู้ทรงสิทธิในภายหลังแล้ว ให้กระทำการนั้นได้
มาตรา ๒๓ การกระทำอย่างใดอย่างหนึ่งดังต่อไปนี้ต่อแบบผังภูมิที่ได้รับความคุ้มครองตามพระราชบัญญัตินี้ มิให้ถือว่าเป็นการละเมิดสิทธิของผู้ทรงสิทธิ
(๑) การทำซ้ำเพื่อใช้ในการประเมิน การวิเคราะห์ การวิจัย หรือการศึกษา
(๒) การนำแบบผังภูมิที่มีลักษณะตามมาตรา ๖ ที่ได้สร้างสรรค์ขึ้นโดยผลของการกระทำตาม (๑) ไปประกอบในวงจรรวม หรือการกระทำการตามมาตรา ๒๒ ต่อแบบผังภูมิดังกล่าว
(๓) การทำซ้ำเพื่อประโยชน์ของตนเอง อันมิใช่การกระทำเพื่อประโยชน์ในเชิงพาณิชย์
(๔) การกระทำตามมาตรา ๒๒ (๒) ต่อวงจรรวมที่มีแบบผังภูมิที่ผู้ทรงสิทธิได้รับความคุ้มครองประกอบอยู่ด้วย หรือต่อผลิตภัณฑ์ที่มีวงจรรวมดังกล่าวประกอบอยู่ด้วย หากผู้กระทำมิได้รู้หรือมีเหตุอันควรรู้ในขณะที่ได้มาซึ่งวงจรรวมหรือผลิตภัณฑ์ดังกล่าวว่ามีแบบผังภูมิอันละเมิดสิทธิของผู้ทรงสิทธิประกอบอยู่ด้วย ในกรณีนี้ เมื่อผู้กระทำการดังกล่าวได้รับแจ้งว่าวงจรรวมหรือผลิตภัณฑ์นั้นมีแบบผังภูมิอันละเมิดสิทธิของผู้ทรงสิทธิ ก็ให้กระทำการตามมาตรา ๒๒ (๒) ต่อไปได้เฉพาะกับวงจรรวมหรือผลิตภัณฑ์ที่ตนยังคงมีเหลืออยู่หรือที่ได้สั่งไว้เพื่อจำหน่ายก่อนรับแจ้ง โดยให้จ่ายค่าใช้สิทธิแก่ผู้ทรงสิทธิเป็นจำนวนอันสมควรที่จะพึงใช้กันในทางการค้า
(๕) การกระทำตามมาตรา ๒๒ (๒) ต่อแบบผังภูมิ หรือวงจรรวมที่ได้มาโดยชอบจากการนำออกหาประโยชน์ในเชิงพาณิชย์ของผู้ทรงสิทธิ
(๖) การกระทำใดตามมาตรา ๒๒ โดยบุคคลที่สร้างสรรค์แบบผังภูมิที่เหมือนกับแบบผังภูมิที่ผู้ทรงสิทธิได้รับความคุ้มครองโดยบุคคลที่สร้างสรรค์ดังกล่าวได้สร้างสรรค์ด้วยตนเอง
มาตรา ๒๔ ผู้ทรงสิทธิจะอนุญาตให้บุคคลใดใช้สิทธิในแบบผังภูมิของตนตามมาตรา ๒๒ หรือจะโอนสิทธินั้นให้แก่บุคคลอื่นก็ได้ การอนุญาตให้ใช้สิทธิและการโอนสิทธิดังกล่าวต้องทำเป็นหนังสือและจดทะเบียนต่ออธิบดี
ในกรณีที่มีผู้ทรงสิทธิร่วม การอนุญาตให้ใช้สิทธิหรือการโอนสิทธิในแบบผังภูมิตามวรรคหนึ่งต้องได้รับความยินยอมจากผู้ทรงสิทธิร่วมทุกคน ในกรณีที่อธิบดีมีคำสั่งให้รับจดทะเบียนสัญญาอนุญาตให้ใช้สิทธิหรือสัญญาโอนสิทธิให้อธิบดีมีคำสั่งประกาศโฆษณาการรับจดทะเบียนสัญญาดังกล่าว
การขอจดทะเบียนสัญญาอนุญาตให้ใช้สิทธิและสัญญาโอนสิทธิ ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กำหนดในกฎกระทรวง
มาตรา ๒๕ การอนุญาตให้ใช้สิทธิตามมาตรา ๒๔ ผู้ทรงสิทธิจะกำหนดเงื่อนไขข้อจำกัดสิทธิ หรือค่าตอบแทนในลักษณะที่เป็นการจำกัดหรือกีดกันการแข่งขันตามกฎหมายว่าด้วยการแข่งขันทางการค้าไม่ได้
ในกรณีที่อธิบดีเห็นว่าข้อความใดในสัญญาอนุญาตให้ใช้สิทธิขัดต่อบทบัญญัติวรรคหนึ่ง ให้อธิบดีเสนอให้คณะกรรมการวินิจฉัย ถ้าคณะกรรมการเห็นว่าข้อสัญญานั้นขัดต่อบทบัญญัติวรรคหนึ่ง ให้อธิบดีสั่งไม่รับจดทะเบียนสัญญานั้น เว้นแต่คู่สัญญาจะมีเจตนาให้ส่วนที่สมบูรณ์แห่งสัญญานั้นแยกจากส่วนที่ไม่สมบูรณ์ได้ ในกรณีนี้ อธิบดีจะสั่งรับจดทะเบียนสัญญาบางส่วนก็ได้
เมื่อคณะกรรมการได้วินิจฉัยตามวรรคสองแล้ว ถ้าผู้มีส่วนได้เสียไม่เห็นด้วยกับคำวินิจฉัยของคณะกรรมการ ให้มีสิทธินำคดีไปสู่ศาลได้ภายในเก้าสิบวันนับแต่วันที่ได้รับแจ้งคำวินิจฉัยนั้น ถ้าไม่ดำเนินคดีภายในกำหนดเวลาดังกล่าว ให้ถือว่าคำวินิจฉัยของคณะกรรมการเป็นที่สุด
มาตรา ๒๖ ในกรณีที่ผู้ทรงสิทธิอนุญาตให้บุคคลอื่นใช้สิทธิในแบบผังภูมิโดยไม่ปฏิบัติตามมาตรา ๒๔ วรรคหนึ่ง อธิบดีอาจขอให้คณะกรรมการสั่งเพิกถอนการจดทะเบียนแบบผังภูมินั้นได้ตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กำหนดในกฎกระทรวง
มาตรา ๒๗ การขอจดทะเบียนการรับโอนสิทธิในแบบผังภูมิโดยทางมรดกให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่กำหนดในกฎกระทรวง
ในกรณีที่ผู้ทรงสิทธิไม่มีทายาท การคุ้มครองตามหนังสือสำคัญแบบผังภูมิเป็นอันสิ้นสุดลง
มาตรา ๒๘ ภายในหนึ่งปีนับแต่วันประกาศโฆษณาการจดทะเบียนแบบผังภูมิ บุคคลผู้มีส่วนได้เสียอาจขอให้อธิบดีสั่งเพิกถอนการจดทะเบียนแบบผังภูมิที่ไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดในมาตรา ๑๔ หรือมาตรา ๑๕ ได้
เมื่ออธิบดีได้พิจารณารายงานการตรวจสอบและมีคำสั่งยกคำขอเพิกถอนการจดทะเบียนหรือคำสั่งเพิกถอนการจดทะเบียนแบบผังภูมิแล้ว ให้แจ้งคำสั่งพร้อมด้วยเหตุผลให้ผู้ขอเพิกถอนและผู้ทรงสิทธิทราบโดยไม่ชักช้า
ผู้ขอเพิกถอนหรือผู้ทรงสิทธิอาจอุทธรณ์คำสั่งของอธิบดีต่อคณะกรรมการภายในเก้าสิบวันนับแต่วันที่ได้รับแจ้งคำสั่งนั้น
การขอเพิกถอนการจดทะเบียนตามวรรคหนึ่งและการอุทธรณ์คำสั่งของอธิบดีตามวรรคสาม ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กำหนดในกฎกระทรวง
มาตรา ๒๙ เมื่อคณะกรรมการได้มีคำวินิจฉัยการอุทธรณ์ตามมาตรา ๒๘ แล้ว ให้แจ้งคำวินิจฉัยพร้อมด้วยเหตุผลให้ผู้ขอเพิกถอนและผู้ทรงสิทธิทราบโดยไม่ชักช้า
ถ้าผู้ขอเพิกถอนหรือผู้ทรงสิทธิไม่เห็นด้วยกับคำวินิจฉัยของคณะกรรมการ ให้มีสิทธินำคดีไปสู่ศาลได้ภายในเก้าสิบวันนับแต่วันที่ได้รับแจ้งคำวินิจฉัยนั้น ถ้าไม่ดำเนินคดีภายในกำหนดเวลาดังกล่าว ให้ถือว่าคำวินิจฉัยของคณะกรรมการเป็นที่สุด
มาตรา ๓๐ ในกรณีที่มีการจดทะเบียนแบบผังภูมิที่ไม่มีลักษณะตามมาตรา ๖ ให้ถือว่าการจดทะเบียนแบบผังภูมินั้นไม่สมบูรณ์
ในกรณีที่อธิบดีเห็นว่าแบบผังภูมิใดที่ได้รับจดทะเบียนไม่มีลักษณะตามมาตรา ๖ ให้อธิบดีสั่งสอบสวนข้อเท็จจริงและรายงานให้คณะกรรมการทราบเพื่อให้คณะกรรมการสั่งเพิกถอนการจดทะเบียนแบบผังภูมินั้น ในการสอบสวนดังกล่าว ให้ผู้ทรงสิทธิให้ถ้อยคำชี้แจงหรือแสดงหลักฐานได้ และอธิบดีจะเรียกบุคคลใดมาให้ถ้อยคำ ชี้แจง หรือส่งหลักฐานเพิ่มเติมก็ได้
ถ้าผู้ทรงสิทธิไม่เห็นด้วยกับคำสั่งเพิกถอนการจดทะเบียนของคณะกรรมการให้มีสิทธินำคดีไปสู่ศาลได้ภายในเก้าสิบวันนับแต่วันที่ได้รับแจ้งคำสั่งนั้น ถ้าไม่ดำเนินคดีภายในกำหนดเวลาดังกล่าว ให้ถือว่าคำสั่งเพิกถอนของคณะกรรมการเป็นที่สุด