ข้อ ๑๒
ข้อ ๑๒ การจัดทำพินัยกรรมด้วยวาจาตามมาตรา ๑๖๖๓ แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์นั้น ให้กรมการอำเภอบันทึกข้อความที่พยานนำมาแจ้งโดยม...
...
ข้อ ๑๒ การจัดทำพินัยกรรมด้วยวาจาตามมาตรา ๑๖๖๓ แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์นั้น ให้กรมการอำเภอบันทึกข้อความที่พยานนำมาแจ้งโดยมิชักช้า ถ้ากรมการอำเภอสงสัยว่าจะมิได้มีการทำพินัยกรรมด้วยวาจาขึ้นตามที่ได้รับแจ้งไว้ก็ดี หรือสงสัยว่าข้อความที่นำมาแจ้ง ไม่ตรงกับความจริงก็ดี ให้กรมการอำเภอสอบสวนเหตุการณ์และรายละเอียดอันอาจเป็นประโยชน์แก่การพิจารณาถึงความถูกต้องและแท้จริงแห่งเนื้อความที่พยานนำมาแจ้งนั้น จัดทำเป็นบันทึกขึ้นไว้ประกอบเรื่องด้วย
พินัยกรรมที่ทำขึ้นตามมาตรา ๑๖๖๓ แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์นั้น ให้ยกเว้นไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมตามที่กำหนดไว้ในอัตราแห่งกฎนี้
ข้อ ๑๓
ข้อ ๑๓ การเก็บรักษาและส่งมอบพินัยกรรมที่ทำขึ้นตามมาตรา ๑๖๖๓ แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ให้กรมการอำเภอปฏิบัติการตามความในข้อ...
...
ข้อ ๑๓ การเก็บรักษาและส่งมอบพินัยกรรมที่ทำขึ้นตามมาตรา ๑๖๖๓ แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ให้กรมการอำเภอปฏิบัติการตามความในข้อ ๖, ๘ และ ๙ แห่งกฎนี้เท่าที่สามารถจะทำได้
ข้อ ๑๔
ข้อ ๑๔ ผู้ใดประสงค์จะแสดงเจตนาโดยทำเป็นหนังสือมอบไว้แก่พนักงานเจ้าหน้าที่ เพื่อ
(๑) ...
...
ข้อ ๑๔ ผู้ใดประสงค์จะแสดงเจตนาโดยทำเป็นหนังสือมอบไว้แก่พนักงานเจ้าหน้าที่ เพื่อ
(๑) ตัดทายาทโดยธรรมมิให้รับมรดก หรือ
(๒) ถอนการตัดทายาทโดยธรรมมิให้รับมรดก หรือ
(๓) สละมรดก
ให้ทำคำร้องแสดงความจำนงตามแบบของเจ้าพนักงานยื่นต่อกรมการอำเภอ ณ ที่ว่าการอำเภอ หรือกิ่งอำเภอใดในราชอาณาจักรก็ได้
ข้อ ๑๕
ข้อ ๑๕ หนังสือแสดงเจตนาที่ประสงค์จะมอบไว้ตามข้อ ๑๔ นั้น ถ้าได้ทำไว้แล้ว ก็ให้ยื่นไปพร้อมกับคำร้อง แต่หนังสือนั้นจะต้อ...
...
ข้อ ๑๕ หนังสือแสดงเจตนาที่ประสงค์จะมอบไว้ตามข้อ ๑๔ นั้น ถ้าได้ทำไว้แล้ว ก็ให้ยื่นไปพร้อมกับคำร้อง แต่หนังสือนั้นจะต้องมี วัน เดือน ปีที่ทำ ภูมิลำเนาของผู้ทำและลงลายมือชื่อหรือมีเครื่องหมายอื่นแทนลายมือชื่อของผู้ทำหนังสือนั้นตามที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๙ และมีความชัดเจนระบุชื่อทายาทโดยธรรมที่จะตัดหรือจะถอนการตัดมิให้รับมรดก หรือชื่อเจ้ามรดกที่ตนเจตนาสละมรดก แล้วแต่กรณี และถ้าเป็นหนังสือสละมรดกจะต้องไม่มีข้อความว่าสละเพียงบางส่วนหรือมีเงื่อนไขเงื่อนเวลาอย่างใด ๆ
ถ้าผู้แสดงเจตนาประสงค์จะให้กรมการอำเภอจัดทำหนังสือดังกล่าวแล้วให้ ก็ให้กรมการอำเภอจัดทำให้ โดยเรียกค่าธรรมเนียมตามอัตราท้ายกฎนี้
ข้อ ๑๖
ข้อ ๑๖ เมื่อกรมการอำเภอได้รับมอบหนังสือแสดงเจตนาตัดหรือถอนการตัดทายาทโดยธรรมมิให้รับมรดกหรือสละมรดกไว้จากผู้ใดแล้ว ให้ออกใบรับให้แก่ผู้นั...
...
ข้อ ๑๖ เมื่อกรมการอำเภอได้รับมอบหนังสือแสดงเจตนาตัดหรือถอนการตัดทายาทโดยธรรมมิให้รับมรดกหรือสละมรดกไว้จากผู้ใดแล้ว ให้ออกใบรับให้แก่ผู้นั้นไปฉบับหนึ่ง และให้มีต้นขั้วใบรับเก็บไว้ ณ ที่ว่าการอำเภอหรือกิ่งอำเภอเป็นหลักฐานด้วย
ข้อ ๑๗
ข้อ ๑๗ เมื่อมีเหตุควรสงสัยว่าผู้ทำหนังสืออย่างใด ๆ ดังกล่าวไว้ในข้อ ๑๔ เป็นผู้เยาว์หรือบุคคลวิกลจริต ให้นำความในกฎข้อ...
...
ข้อ ๑๗ เมื่อมีเหตุควรสงสัยว่าผู้ทำหนังสืออย่างใด ๆ ดังกล่าวไว้ในข้อ ๑๔ เป็นผู้เยาว์หรือบุคคลวิกลจริต ให้นำความในกฎข้อ ๔ ว่าด้วยการทำพินัยกรรมมาปฏิบัติโดยอนุโลม
ในกรณีสละมรดก ถ้าปรากฏว่าผู้ทำหนังสือสละมรดกเป็นผู้เยาว์หรือบุคคลวิกลจริต หรือบุคคลผู้ไม่สามารถจัดทำการงานของตนเองได้ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา ๓๔ ให้กรมการอำเภอเรียกให้ผู้นั้นแสดงหลักฐานว่าผู้นั้นได้รับความยินยอมของบิดามารดา ผู้ปกครอง ผู้อนุบาล หรือผู้พิทักษ์ แล้วแต่กรณี และได้รับอนุมัติจากศาลแล้ว จึงรับมอบหนังสือนั้นไว้
ข้อ ๑๘
ข้อ ๑๘ หนังสือตัดหรือถอนการตัดทายาทโดยธรรมมิให้รับมรดก หรือสละมรดกนั้น ให้เป็นหน้าที่กรมการอำเภอจัดการเก็บรักษาไว้ ณ ที่ว่...
...
ข้อ ๑๘ หนังสือตัดหรือถอนการตัดทายาทโดยธรรมมิให้รับมรดก หรือสละมรดกนั้น ให้เป็นหน้าที่กรมการอำเภอจัดการเก็บรักษาไว้ ณ ที่ว่าการอำเภอ หรือกิ่งอำเภอโดยใช้ความระมัดระวัง เช่นเดียวกับการเก็บหนังสือสำคัญในราชการ
ข้อ ๑๙
ข้อ ๑๙* ให้เรียกเก็บค่าธรรมเนียม ดังต่อไปนี้
(๑) ค่าทำพินัยกรรมแบบเอกสารฝ่ายเมือง&nb...
...
ข้อ ๑๙* ให้เรียกเก็บค่าธรรมเนียม ดังต่อไปนี้
(๑) ค่าทำพินัยกรรมแบบเอกสารฝ่ายเมือง ในที่ว่าการอำเภอ ฉบับละ ๕๐ บาท ถ้าจะทำเป็นคู่ฉบับ ๆ ละ ๑๐ บาท
(๒) ค่าทำพินัยกรรมแบบเอกสารฝ่ายเมือง นอกที่ว่าการอำเภอ ฉบับละ ๑๐๐ บาท ถ้าจะทำเป็นคู่ฉบับ ๆ ละ ๒๐ บาท
(๓) ค่าทำพินัยกรรมแบบเอกสารลับ ฉบับละ ๒๐ บาท
(๔) ค่าทำหนังสือตัด หรือถอนการตัดทายาทโดยธรรม มิให้รับมรดกหรือสละมรดก ฉบับละ ๒๐ บาท
(๕) ค่ารับมอบเก็บรักษาเอกสารที่ระบุไว้ใน (๔) ฉบับละ ๒๐ บาท
(๖) ค่าคัด และรับรองสำเนาพินัยกรรม หรือเอกสารที่ระบุไว้ใน (๔) ฉบับละ ๑๐ บาท
(๗) ค่าป่วยการพยานและล่าม ให้ได้แก่พยานและล่ามเฉพาะที่ทางอำเภอจัดหา โดยพิจารณาจ่ายตามรายได้ และฐานะของพยานและล่าม ซึ่งควรได้รับค่าป่วยการเมื่อมาอำเภอ ไม่เกินวันละ ๕๐ บาท