ข้อ ๔* อัตราเงินรางวัลทนายความที่ศาลตั้งให้ผู้ต้องหาหรือจำเลยตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๑๗๓ ให้เป็นไปตามอัตราที่กำหนดไว้ในข้อ ๗ และตารางท้ายระเบียบนี้
ข้อ ๙ ทนายความมีสิทธิเบิกค่าใช้จ่ายตามข้อ ๘ เมื่อได้ปฏิบัติหน้าที่ในคดีนั้น ๆ แล้วเสร็จในแต่ละครั้ง และให้ศาลชั้นต้นเป็นผู้มีอำนาจอนุมัติในการเบิกจ่าย
ข้อ ๑๑ ระเบียบนี้ไม่ใช้บังคับแก่คดีอาญาที่ศาลตั้งทนายความให้ผู้ต้องหาหรือจำเลยตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๑๗๓ ซึ่งถึงที่สุดหรือยังไม่ถึงที่สุด แต่ศาลได้มีคำสั่งให้จ่ายเงินรางวัลก่อนวันที่ระเบียบนี้ใช้บังคับและให้ใช้ระเบียบ ข้อบังคับ หรือคำสั่งที่ใช้บังคับอยู่ในวันที่คดีนั้นถึงที่สุดหรือวันที่ศาลมีคำสั่งให้จ่ายเงินรางวัล แล้วแต่กรณี บังคับแก่คดีดังกล่าว
ข้อ ๑๒ ให้เลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรมรักษาการตามระเบียบนี้
ข้อ ๑ ระเบียบนี้เรียกว่า “ระเบียบคณะกรรมการบริหารศาลยุติธรรม ว่าด้วยค่าใช้จ่ายในการตรวจพิสูจน์พยานหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๒๔๔/๑ พ.ศ. ๒๕๕๔”
ข้อ ๒* ระเบียบนี้ให้ใช้บังคับเมื่อพ้นกำหนดเก้าสิบวันนับแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
ข้อ ๓ ในระเบียบนี้
“ศาล” หมายความว่า ศาลฎีกา ศาลอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์ภาค หรือศาลชั้นต้น แล้วแต่กรณี
“ตรวจพิสูจน์” หมายความว่า การตรวจพิสูจน์บุคคล วัตถุหรือเอกสารใด ๆ โดยวิธีการทางวิทยาศาสตร์
“ผู้ร้องขอ” หมายความว่า คู่ความฝ่ายที่ร้องขอให้ตรวจพิสูจน์
“ค่าใช้จ่าย” หมายความว่า ค่าใช้จ่ายทั้งหลายในการดำเนินการตรวจพิสูจน์ ตามมาตรา ๒๔๔/๑ วรรคสี่ แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา
ข้อ ๔ ในคดีที่มีอัตราโทษจำคุก เมื่อมีผู้ร้องขอหรือเมื่อศาลเห็นสมควร ให้ศาลพิจารณาสั่งตรวจพิสูจน์ได้หากมีความจำเป็นต้องใช้พยานหลักฐานทางวิทยาศาสตร์นั้นพิสูจน์ข้อเท็จจริงที่เป็นประเด็นสำคัญแห่งคดีซึ่งจะทำให้ศาลสามารถวินิจฉัยชี้ขาดคดีได้โดยไม่ต้องสืบพยานหลักฐานอื่นอีก หรือมีเหตุอันควรเชื่อว่า หากมีการเนิ่นช้ากว่าจะนำพยานหลักฐานทางวิทยาศาสตร์อันสำคัญมาสืบในภายหน้าพยานหลักฐานนั้นจะสูญเสียไป หรือยากแก่การตรวจพิสูจน์
ข้อ ๕ ในการสั่งตรวจพิสูจน์ ให้ศาลพิจารณาสถานที่ หน่วยงาน บุคคล หรือนิติบุคคลที่ตรวจพิสูจน์ รวมทั้งค่าใช้จ่ายและวิธีการตรวจพิสูจน์ประกอบกัน โดยพิจารณาส่งตรวจในส่วนราชการหรือหน่วยงานอื่นของรัฐก่อน
ค่าใช้จ่ายในการตรวจพิสูจน์ ให้เป็นไปตามบัญชีค่าใช้จ่ายท้ายระเบียบนี้
ข้อ ๖ ให้ศาลสั่งจ่ายค่าใช้จ่ายในการตรวจพิสูจน์จากงบประมาณ เมื่อได้รับผลการตรวจพิสูจน์
ข้อ ๗ ในแต่ละคดีหรือในคดีที่มีการรวมการพิจารณา ให้ศาลพิจารณาสั่งจ่ายค่าใช้จ่ายสำหรับการตรวจพิสูจน์ประเภทหนึ่งเพียงครั้งเดียว เว้นแต่กรณีมีเหตุสมควรเพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรม
ข้อ ๘ วิธีการเบิกจ่าย หลักฐานและเอกสารการเบิกจ่ายค่าใช้จ่ายในการตรวจพิสูจน์ ให้ปฏิบัติตามระเบียบ ก.บ.ศ. เกี่ยวกับการเงิน
ข้อ ๙ การตรวจพิสูจน์ที่ยังมิได้มีการเบิกจ่ายก่อนวันที่ระเบียบนี้มีผลใช้บังคับ ให้เบิกค่าใช้จ่ายตามระเบียบนี้ได้
ข้อ ๑๐ ให้เลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรมรักษาการตามระเบียบนี้
บัญชีค่าใช้จ่ายในการตรวจพิสูจน์พยานหลักฐานทางวิทยาศาสตร์
หลักเกณฑ์ อัตราค่าใช้จ่าย
๑. กรณีที่ส่งให้ส่วนราชการหรือหน่วยงานอื่นของรัฐ ตรวจพิสูจน์ เบิกได้เท่าที่จ่ายจริง
๒. กรณีที่ส่งให้บุคคล หรือนิติบุคคลที่มิใช่ส่วนราชการ หรือหน่วยงานอื่นของรัฐตรวจพิสูจน์ เบิกได้เท่าที่จ่ายจริง แต่ไม่เกินอัตรา ค่าใช้จ่ายของส่วนราชการ หรือหน่วยงานอื่นของรัฐที่ตรวจพิสูจน์ ในประเภทเดียวกัน ในกรณีจําเป็นที่จะต้องจ่ายเกินอัตรา ดังกล่าวหรือไม่มีอัตรานั้นเทียบเคียง ให้อยู่ในดุลพินิจของศาล
ข้อ ๑ ระเบียบนี้เรียกว่า “ระเบียบกระทรวงยุติธรรมว่าด้วยการจ่ายค่าตอบแทนหรือค่าป่วยการ ค่าพาหนะเดินทาง และค่าเช่าที่พักของผู้ทรงคุณวุฒิหรือผู้เชี่ยวชาญที่ศาลขอให้มาให้ความเห็นตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๑๕๐ พ.ศ. ๒๕๔๓”
ข้อ ๒* ระเบียบนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันที่พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา (ฉบับที่ ๒๑) พ.ศ. ๒๕๔๒ มีผลใช้บังคับเป็นต้นไป
ข้อ ๓ ผู้ทรงคุณวุฒิหรือผู้เชี่ยวชาญให้หมายความรวมถึงแพทย์ที่ศาลขอให้มาให้ความเห็นด้วย
ข้อ ๔ ให้ศาลเป็นผู้มีอำนาจอนุมัติในการเบิกจ่ายค่าตอบแทน หรือค่าป่วยการค่าพาหนะเดินทาง และค่าเช่าที่พักแก่ผู้ทรงคุณวุฒิหรือผู้เชี่ยวชาญที่ศาลขอให้มาให้ความเห็น เพื่อประกอบการไต่สวนและทำคำสั่งของศาลตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา ๑๕๐ เมื่อผู้ทรงคุณวุฒิหรือผู้เชี่ยวชาญได้ปฏิบัติหน้าที่เสร็จสิ้นในแต่ละครั้ง ทั้งนี้ ตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดในข้อ ๕ และข้อ ๖
ข้อ ๕ ค่าตอบแทนหรือค่าป่วยการที่จ่ายให้แก่ผู้ทรงคุณวุฒิหรือผู้เชี่ยวชาญให้คิดเป็นรายชั่วโมงในอัตราตามที่ศาลเห็นสมควรกำหนด แต่ต้องไม่ต่ำกว่าชั่วโมงละ ๕๐๐ บาท และไม่เกินชั่วโมงละ ๑,๐๐๐ บาท แต่ค่าตอบแทน หรือค่าป่วยการที่ศาลสั่งจ่ายให้แก่ผู้ทรงคุณวุฒิหรือผู้เชี่ยวชาญสำหรับการปฏิบัติหน้าที่ครั้งหนึ่งต้องมีจำนวนไม่น้อยกว่า ๕๐๐ บาท
ในการกำหนดค่าตอบแทนหรือค่าป่วยการให้แก่ผู้ทรงคุณวุฒิหรือผู้เชี่ยวชาญ ให้ศาลพิจารณาถึงคุณวุฒิและความเชี่ยวชาญของผู้ทรงคุณวุฒิหรือผู้เชี่ยวชาญ ตลอดจนพฤติการณ์อื่นใดที่ศาลเห็นสมควรนำมาประกอบการพิจารณา
ข้อ ๖ ผู้ทรงคุณวุฒิหรือผู้เชี่ยวชาญที่ศาลขอให้มาให้ความเห็น เพื่อประกอบการไต่สวนและทำคำสั่งของศาล มีสิทธิได้รับค่าพาหนะเดินทาง และค่าเช่าที่พัก ดังนี้
๖.๑ ผู้ที่เป็นข้าราชการหรือลูกจ้างของทางราชการ ให้ใช้สิทธิเบิกจ่ายได้ตามกฎหมายว่าด้วยค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปราชการ
๖.๒ ผู้ที่เป็นบุคคลภายนอก ให้มีสิทธิในการเบิกจ่ายได้ตามกฎหมายว่าด้วยค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปราชการ โดยเทียบตำแหน่งผู้ทรงคุณวุฒิหรือผู้เชี่ยวชาญเทียบเท่าตำแหน่งข้าราชการพลเรือนระดับ ๙
ข้อ ๗ ให้ปลัดกระทรวงยุติธรรมรักษาการตามระเบียบนี้ และให้มีอำนาจตีความวินิจฉัยปัญหาเพื่อดำเนินการให้เป็นไปตามระเบียบนี้
ข้อ ๑ ข้อบังคับนี้เรียกว่า “ข้อบังคับของประธานศาลฎีกา ว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการเกี่ยวกับการออกคำสั่งหรือหมายอาญา พ.ศ. ๒๕๔๘”
ข้อ ๒* ข้อบังคับนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป